ติดตามประวัติภาวะ AFib ด้วย Apple Watch

ภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว (AFib) เป็นจังหวะการเต้นของหัวใจที่ไม่สม่ำเสมอแบบหนึ่ง โดยหัวใจห้องบนเต้นเป็นจังหวะที่ไม่สัมพันธ์กับหัวใจห้องล่าง 

CDC กล่าวว่า ประมาณ 2% ของบุคคลผู้มีอายุต่ำกว่า 65 ปี และ 9% ของบุคคลผู้มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปมี AFib เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นก็จะยิ่งพบอาการจังหวะการเต้นของหัวใจที่ไม่สม่ำเสมอได้บ่อยขึ้น ผู้ที่มี AFib บางรายอาจไม่พบอาการใดๆ แต่บางรายจะมีอาการต่างๆ เช่น หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น อ่อนเพลีย หรือหายใจลำบาก

AFib เป็นอาการเรื้อรัง แต่ว่าอัตราการเกิดภาวะ AFib นั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งผู้ที่มีภาวะ AFib ส่วนใหญ่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างกระฉับกระเฉงและมีสุขภาพดี ช่วงเวลาที่หัวใจเกิดภาวะ AFib นั้นสามารถลดลงได้ด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำ การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ การมีน้ำหนักตัวเหมาะสม และการรักษาอาการทางการแพทย์อื่นๆ ที่อาจทำให้ภาวะ AFib แย่ลงได้ หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา ภาวะ AFib อาจส่งผลให้เกิดหัวใจวายหรือเกิดการแข็งตัวของเลือดซึ่งนำไปสู่โรคหลอดเลือดสมองได้

ประวัติภาวะ AFib จะช่วยให้คุณเห็นความถี่ที่หัวใจของคุณแสดงสัญญาณการเกิดภาวะ AFib ในระยะยาว หรือที่เรียกว่าช่วงเวลาที่มีภาวะ AFib คุณจึงสามารถแชร์ข้อมูลนี้กับแพทย์ของคุณเพื่อการปรึกษาพูดคุยที่มีรายละเอียดครบถ้วนยิ่งขึ้น

• คุณต้องให้แพทย์วินิจฉัยภาวะ AFib
• อัปเดต iPhone ของคุณเพื่อใช้ iOS เวอร์ชั่นล่าสุด และอัปเดต Apple Watch เพื่อใช้ watchOS เวอร์ชั่นล่าสุด
• คุณต้องใส่ Apple Watch อย่างน้อย 12 ชั่วโมงต่อวันเป็นเวลา 5 วันต่อสัปดาห์เพื่อให้ได้รับค่าโดยประมาณอย่างสม่ำเสมอ
• คุณต้องเปิดใช้งานอัตราการเต้นของหัวใจและการตรวจจับข้อมือบน Apple Watch ของคุณ
• ประวัติภาวะ AFib ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 22 ปี

1. เปิดแอปสุขภาพบน iPhone
2. แตะ "เลือกหา" จากนั้นแตะ "หัวใจ"
3. แตะ "ประวัติภาวะ AFib"
4. แตะ "ตั้งค่า" แล้วแตะ "เริ่มต้นใช้งาน"
5. ป้อนวันเดือนปีเกิดของคุณ
6. เลือก "ใช่" เพื่อระบุว่าคุณได้รับการวินิจฉัยภาวะ AFib โดยแพทย์แล้ว จากนั้นแตะ "ดำเนินการต่อ"
7. แตะ "ดำเนินการต่อ" เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติภาวะ AFib, ผลลัพธ์ที่คุณอาจเห็น และปัจจัยชีวิต
8. แตะ "เสร็จสิ้น"

ประวัติภาวะ AFib จะตรวจวัดจังหวะการเต้นของหัวใจของคุณเป็นระยะๆ เพื่อหาสัญญาณการเกิดภาวะ AFib แม้ว่าภาวะ AFib สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ แต่ยังมีปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อสัดส่วนเปอร์เซ็นต์ความถี่ที่หัวใจของคุณแสดงสัญญาณการเกิดภาวะ AFib ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ประวัติภาวะ AFib จะพิจารณาจากปัจจัยชีวิตต่อไปนี้ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อสัดส่วนเปอร์เซ็นที่หัวใจของคุณอยู่ในภาวะ AFib:

• เวลาการออกกำลังกาย
• การนอนหลับ
• น้ำหนัก
• การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
• นาทีของการทำสมาธิ

หากคุณใส่ Apple Watch อย่างต่อเนื่องขณะออกกำลังกาย นอนหลับ หรือทำสมาธิ นาฬิกาจะบันทึกเวลาการออกกำลังกาย การนอนหลับ และนาทีของการทำสมาธิ คุณสามารถแตะปัจจัยชีวิตแต่ละปัจจัย แล้วแตะ "บันทึก" เพื่อบันทึกรายละเอียดด้วยตนเอง นอกจากนี้ คุณยังสามารถแตะแอปของบริษัทอื่นที่แนะนำเพื่อดาวน์โหลดจาก App Store สำหรับใช้ติดตามแต่ละปัจจัยได้

หลังจากรวบรวมค่าที่อ่านได้เพียงพอแล้ว คุณจะได้รับการแจ้งเตือนประจำสัปดาห์ทุกๆ วันจันทร์บน Apple Watch โดยจะระบุสัดส่วนเปอร์เซ็นความถี่โดยประมาณที่หัวใจของคุณแสดงสัญญาณการเกิดภาวะ AFib จากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คุณยังสามารถดูประวัติของคุณโดยละเอียดยิ่งขึ้นในแอปสุขภาพได้อีกด้วย

1. เปิดแอปสุขภาพบน iPhone
2. แตะ "เลือกหา" จากนั้นแตะ "หัวใจ"
3. แตะ "ประวัติภาวะ AFib" หากคุณบันทึกประวัติภาวะ AFib ไว้ในรายการโปรด คุณจะสามารถเข้าถึงข้อมูลนั้นจากแท็บ "สรุป" ได้ด้วย

ค่าโดยประมาณของประวัติภาวะ AFib จะแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ เปอร์เซ็นต์ที่ต่ำกว่าหมายความว่าหัวใจของคุณอยู่ในภาวะ AFib น้อยครั้งกว่า ขณะที่เปอร์เซ็นต์ที่สูงกว่าหมายความว่าอยู่ในภาวะนี้บ่อยครั้งกว่า ทั้งนี้ประวัติภาวะ AFib ของคุณจะไม่แสดงเป็น 0% อย่างแน่นอน แต่จะแสดงเป็น 2% หรือน้อยกว่านั้น

คุณยังสามารถแตะ "แสดงปัจจัยชีวิต" เพื่อเปรียบเทียบกับประวัติภาวะ AFib ของคุณได้ด้วย

ไฮไลท์ของประวัติภาวะ AFib จะแสดงวันของสัปดาห์และช่วงเวลาของวันที่หัวใจของคุณแสดงสัญญาณการเกิดภาวะ AFib บ่อยครั้งที่สุด ซึ่งสามารถช่วยให้คุณประเมินว่าปัจจัยชีวิตส่งผลกระทบต่ออาการของคุณอย่างไรบ้าง หลังจากรวบรวมค่าที่อ่านได้เพียงพอแล้ว ไฮไลท์ของประวัติภาวะ AFib จะปรากฏขึ้นหลังจากคุณใส่ Apple Watch มาแล้ว 6 สัปดาห์

1. เปิดแอปสุขภาพบน iPhone
2. เลื่อนไปที่ "ไฮไลท์"
3. แตะ "ประวัติภาวะ AFib"

เมื่อคุณพร้อมแชร์ข้อมูลสุขภาพของคุณในแอปสุขภาพแล้ว ครอบครัวและเพื่อนๆ จะสามารถรับการอัปเดตเกี่ยวกับประวัติภาวะ AFib ของคุณได้ หากคุณอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา คุณยังสามารถแชร์ประวัติภาวะ AFib ของคุณกับผู้ให้บริการด้านสุขภาพที่ลงทะเบียนไว้ได้โดยอัตโนมัติ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีแชร์และดูข้อมูลสุขภาพในแอปสุขภาพ

คุณสามารถส่งออกข้อมูลประวัติภาวะ AFib เป็นไฟล์ PDF เพื่อแชร์ได้ด้วย โดยเลื่อนลงไปที่ "ตัวเลือก" จาก "ประวัติภาวะ AFib" และแตะ "ส่งออก PDF" แตะปุ่ม "แชร์" เพื่อส่ง PDF ไปให้ผู้ที่อยู่ในแอปรายชื่อของคุณ บันทึกไปยังแอปไฟล์ หรือส่งไปยังอุปกรณ์อื่นโดยใช้ AirDrop

• โหมดพลังงานต่ำจะปิดการวัดอัตราการเต้นของหัวใจในเบื้องหลัง และหากเปิดใช้งานโหมดนี้ไว้ก็อาจทำให้ไม่ได้รับค่าโดยประมาณของประวัติภาวะ AFib เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโหมดพลังงานต่ำ
• Apple Watch ไม่สามารถตรวจจับอาการหัวใจวายหรือโรคหลอดเลือดสมองได้ หากคุณรู้สึกเจ็บ จุก แน่นที่หน้าอก หรือคิดว่ากำลังมีอาการหัวใจวาย โปรดโทรหาหน่วยบริการฉุกเฉินทันที
• Apple Watch สามารถตรวจหาได้เฉพาะสัญญาณของภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้วเป็นระยะ ประวัติภาวะ AFib อาจไม่พบอาการทั้งหมดของจังหวะการเต้นที่ไม่สม่ำเสมอของคุณ
• ประวัติภาวะ AFib ไม่ได้แจ้งเตือนคุณเมื่อคุณกำลังมีภาวะ AFib
• อย่าเปลี่ยนยาโดยไม่ขอคำปรึกษาจากแพทย์
• เนื่องจากคุณสมบัติการแจ้งเตือนจังหวะการเต้นที่ไม่สม่ำเสมอไม่ได้ออกแบบมาสำหรับผู้ที่มีภาวะ AFib คุณสมบัตินี้จึงปิดไว้โดยอัตโนมัติเมื่อคุณตั้งค่าประวัติภาวะ AFib